วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อนาคตห้องสมุดกับปัญหาที่ท้าทาย

ขณะนี้ห้องสมุดทั่วโลกกำลังประสบปัญหาท้าทาย เนื่องจากจำนวนคนเข้ามาใช้บริการห้องสมุดลดลงเรื่อยๆ จากคู่แข่งน่ากลัวอย่างอินเทอร์เน็ตที่เข้าไปแข่งในทุกเรื่อง ไม่เฉพาะเรื่องของห้องสมุด  แต่ข่าวนี้ไม่น่าจะสร้างความกระทบกระเทือนกับวงการห้องสมุดไทย เพราะปรากฏการณ์นี้เป็นปรากฏการณ์ถาวรของห้องสมุดไทยจนไม่น่าจะเรียกว่าวิกฤติแต่อย่างไร ในเมื่อห้องสมุดไทยไม่ค่อยมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอยู่แล้ว ด้วยปัจจัยหลักๆ สองประการคือ ผู้บริหารทุกยุคทุกสมัยไม่ได้ให้ความสนใจสนับสนุน บวกกับความไม่นิยมอ่านหนังสือของคนไทย
แต่เรื่องยังไม่จบเพียงเท่านั้น เมื่อห้องสมุดชั้นนำในหลายๆ ประเทศถือวิกฤตเป็นโอกาสในการปรับตัวห้องสมุดเข้าสู่ยุคใหม่ แม้ว่าจะเคยมีคำทำนายเมื่อครั้งที่อินเทอร์เน็ตอุบัติขึ้นใหม่ๆ ว่า ห้องสมุดคงต้องสูญหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ในไม่ช้านี้ แต่จนแล้วจนรอด นานาประเทศกลับเร่งสร้างห้องสมุดเป็นการใหญ่  หากท่านไปค้นใน google ดู ก็จะพบว่ามีการสร้างห้องสมุดยุคใหม่ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามเกิดขึ้นทุกมุมโลก ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น..
เพราะมีความเชื่อกันว่า ห้องสมุดจะปรับตัวกลายเป็นศูนย์กลางของชุมชนแห่งใหม่ที่ทรงพลังกว่าเก่า และห้องสมุดจะไม่ได้มีหน้าที่เป็นเพียงแค่สถานที่เก็บหนังสืออีกต่อไป ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาห้องสมุดได้ทำหน้าที่อันนี้เป็นอย่างดี ในยุคที่ข่าวสารข้อมูลเป็นของหายาก เข้าถึงยาก คนส่วนใหญ่ไม่มีศักยภาพในการเป็นเจ้าของข้อมูลด้วยตนเอง จึงต้องบากหน้ามาใช้บริการห้องสมุด  ห้องสมุดจึงมักสร้างในจุดที่เหมาะแก่การเดินทางมาของชุมชน และด้วยความโดดเด่นด้านสถานที่ตั้งนี่เองที่กลายเป็นสิ่งมีค่าของห้องสมุดยุคใหม่ที่จะกลายเป็นศูนย์รวมของชุมชนในด้านต่างๆ ได้ไม่ยาก
อนาคตของห้องสมุดจึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความเป็นห้องสมุด นี่คือโฉมหน้าบางด้านของห้องสมุดในอนาคต ..
ห้องสมุดจะกลายเป็นศูนย์บัญชาการ search center เชื่อกันว่าเทคโนโลยีการเสิร์ชจะพัฒนาซับซ้อนยิ่งๆ ขึ้นที่ไม่จำกัดเพียงเนื้อหา ภาพ และเสียงเท่านั้น แต่จะรวมถึง texture กลิ่น รสชาติ
ซึ่งเชฟพ่อครัวจะกลายเป็นลูกค้าประจำที่มาใช้บริการเพื่อค้นหาสูตรอาหารจากวัตถุดิบทั่วโลก ก่อนที่จะนำไปพัฒนาเป็นอาหารจริงขาย นักวิทยาศาสตร์ วิศวกรผู้พัฒนาสินค้าจะเข้ามาใช้บริการในการศึกษาสร้างแบบจำลอง การพิมพ์ภาพสามมิติต้นแบบ ก่อนที่จะพัฒนาไปเป็นสินค้าจริง
ห้องสมุดจะกลายเป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยีด้านข่าวสารข้อมูล การค้นหาข้อมูลในเชิงข้อความไม่เป็นการเพียงพออีกต่อไป หลายๆ งานจำเป็นต้องอาศัยข้อมูลจำนวนมากซึ่งมีขีดจำกัดในการนำเสนอในรูปแบบเดิม ดังนั้นการสร้างแบบจำลองแบบ Infographic การสร้างภาพโฮโลแกรม หรือการแสดงภาพแผนที่ความละเอียดสูง การสร้างแบบจำลองของท้องฟ้าจำลองในฤดูกาลต่างๆ เพื่อให้เด็กได้ศึกษา การสร้างแบบจำลองสิ่งแวดล้อมสำหรับให้เด็กได้เข้าค่าย ฯลฯ ซึ่งการใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาลขนาดนี้ และการใช้แบนด์วิธของอินเทอร์เน็ตที่ความเร็วสูงๆ เป็นสิ่งที่ยังแพงเกินเอื้อมสำหรับบ้าน หรือโรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่งจะลงทุนได้ จึงเป็นงานของห้องสมุดที่คนในภาคส่วนอื่นๆ สามารถมาแบ่งปันใช้งานได้ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ดั้งเดิมของห้องสมุดอยู่แล้ว
ห้องสมุดจะไม่จำกัดเป็นเพียงแค่ผู้ให้ยืม แต่จะกลายเป็นศูนย์กลางนำข้อมูลของผู้อ่านกลับเข้ามาเก็บอ้างอิง ห้องสมุดสมัยใหม่ อาจไม่มีชั้นหนังสือสุดลูกหูลูกตา มนุษย์เราได้พัฒนาการบริโภคข่าวสารเป็นสองทางมาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นการให้บริการของห้องสมุดที่เป็นช่องทางเดียวก็จะกลายเป็นการสื่อสารสองทาง ที่คนอ่านนอกจากจะมาเอาข่าวสารจากห้องสมุดแล้ว สามารถแต่งเติมหนังสือให้มีความทันสมัยขึ้นได้ อาจมีการสร้างข่าวสารใหม่กลับคืนให้กับห้องสมุดเรียกได้ว่ามีส่วนร่วมในการขยายตัวของห้องสมุดด้วยเรียกได้ว่าเป็นผู้ผลิต และคนกลางในการกระจายงานของผู้อ่าน หนังสือในยุคใหม่ และจะไม่ได้ถูกจำกัดด้วยจำนวนเล่มเหมือนอดีต ดังนั้นปัญหาที่มีคนยืมหนังสือไปแล้ว ต้องรอคิวจะไม่เกิดขึ้น เพราะผู้ยืมสามารถดาวน์โหลดได้แม้แต่ทำเองที่บ้าน ไม่ต่างอะไรกับการซื้อตั๋วสายการบินในห้องนอนพร้อมกับเป็นพนักงานพิมพ์ตั๋วเอง เป็นพนักงานเก็บเงินให้กับสายการบินเอง
ห้องสมุดจะกลายเป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตที่เก็บความทรงจำของชุมชน เป็นแหล่งนัดพบของคนในท้องถิ่นที่จะขยายบทบาทมากกว่าแค่เป็นสถานที่อ่านหนังสือ เป็นที่ยืมหนังสือเท่านั้น แต่ห้องสมุดจะกลายเป็นเสมือน third place ในด้านต่างๆ จะกลายเป็นสถานที่เก็บความทรงจำภาพเก่า ๆ ของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการตกแต่งร้านค้าในอดีต สิ่งของเฉพาะด้านในชุมชน เช่น ครกตำข้าว เรือประมง ตู้ไปรษณีย์ตู้แรก
ห้องสมุดจะเป็นที่หลบภัยจากบ้าน เป็นที่ทำงานชั่วคราวได้ เป็นที่พบปะสำหรับทำธุรกิจไม่ต่างอะไรกับร้านกาแฟ  การบริการของห้องสมุดจะกลายเป็นสถานที่สร้างประสบการณ์เฉพาะให้กับแต่ละคนที่มาใช้บริการได้ไม่สิ้นสุด  ข้อมูล/ทรัพยากรชิ้นหนึ่งๆ  คนที่เสพต่างกัน ย่อมมีประสบการณ์ที่ต่างกัน บางคนอาจมาห้องสมุดเพื่อเรียกร้องความทรงจำเก่าๆ ในชุมชนของตน
ห้องสมุดจะมีกิจกรรมเสริมเข้ามาอีกหลากหลายอย่างเช่น
  • เป็นห้องซ้อมดนตรีสำหรับชุมชน
  • เป็นสถานีและห้องในการบันทึกเสียงที่เรียกว่า Podcasting stations
  • เป็นสถานีสำหรับ Blogger stations
  • เป็นห้องแสดงงานศิลปะด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด แกะสลัก การสเก็ตภาพ
  • เป็นห้องบันทึกวิดีโอหรือห้องตัดต่อภาพยนตร์
  • เป็นห้องสำหรับจินตนาการ Imagination room สถานที่ฝึกสร้างความคิดสร้างสรรค์ที่อาจต้องใช้ข้อมูลเป็นจำนวนมากในการฝึกหัด
  • เป็นห้องฝึกซ้อมการเล่นละคร หรือเล่นละครย่อยกลุ่มเล็ก
  • เป็นมินิเธียเตอร์สำหรับฉายภาพยนตร์หาชมได้ยาก หรืออีกหน่อยจะกลายเป็นห้องชม Youtube เพราะการพาเพื่อน ครอบครัวมาชมที่ห้องสมุดจะได้อรรถรสกว่าการชมที่บ้าน
  • เป็นที่สันทนาการในด้านเกมที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะเยาวชน ดีกว่าปล่อยให้เด็กๆ ไปเล่นเกมที่เป็นอันตราย
  • เป็นสถานที่จัดสัมมนาในด้านต่าง ๆ
  • เป็นสถานที่รับดูแลเด็กเล็กโตในชุมชนในระหว่างหลังโรงเรียนเลิก
  • เป็นไปรษณีย์ในตัว เป็นสถานที่ถ่ายเอกสาร ซ่อมหนังสือ จัดพิมพ์หนังสือหายากในอดีตของชุมชน หรือจากมุมโลกอื่นๆ เมื่อเทคโนโลยีการพิมพ์ที่มีคุณภาพสูงในขนาดเล็กเป็นสิ่งที่เอื้อมถึงสำหรับการลงทุนของห้องสมุด (แต่อาจจะยังแพงเกินไปสำหรับครอบครัว หรือหน่วยงานขนาดเล็ก)
  • เป็นฟิตเนสเซ็นเตอร์ที่ให้บริการออกกำลังกายพร้อมการอ่านหนังสือ ฟังเพลง
สำหรับห้องสมุดในไทยอ่านแล้ว อาจมีความคิดเดิมคือ “รอไว้ให้คนอื่นทำไปก่อน” ก็ต้องบอกว่า เป็นความคิดที่ตกเหวไปแล้ว เพราะโลกของประสบการณ์รอกันไม่ได้ ต่างสังคม ก็ต่างประสบการณ์ ดังนั้นจึงมีข้อเสนอแนะสำหรับห้องสมุดว่าต้องเริ่มปรับตัวแล้วดังนี้คือ..
  1. เริ่มจากการประเมินประสบการณ์ของห้องสมุดที่มีอยู่ ด้วยการสำรวจความคิดเห็น ประสบการณ์ของผู้ใช้ห้องสมุด ความคิดเห็นของคนใช้ต่อห้องสมุดว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อค้นหาว่าอะไรเป็นสิ่งที่มีความหมายของห้องสมุดในชุมชนที่ตั้ง
  2. เริ่มประยุกต์นำเอาเทคโนโลยีด้านสารสนเทศ ข้อมูลมาใช้
  • ตั้งคณะที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีขึ้นมา
  • รับสมัครบุคลากรที่มีความสามารถทางเทคโนโลยีมาทำงานในห้องสมุด
  • จัดสัมมนาด้านการนำเทคโนโลยีมาใช้ในห้องสมุดให้กับผู้ใช้และบุคคลากรภายในได้รับทราบ
และท้ายสุดนี้ สรุปกันมาให้ดูกันว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ห้องสมุดต้องปรับตัวก่อนที่จะไม่มีที่ยืนในประวัติศาสตร์ไทย ลองมาดูถึงปัจจัยที่ทำให้ห้องสมุดต้องประสบชะตากรรมในทุกวันนี้..
ปัจจัยที่ 1:  การก้าวกระโดดของการสื่อสารที่ทำให้รูปแบบการเข้าถึงข่าวสารข้อมูลของคนเปลี่ยนไปลองมาดู Timeline ของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยเร็วๆ ดังนี้..  โลกการสื่อสารเริ่มเปลี่ยนแปลงตั้งแต่มีการค้นพบรูปแบบการสื่อสารที่นอกเหนือจากการส่งข่าวสารด้วยนกพิราบ เริ่มจากโทรเลขในปี 1844 และตามด้วยโทรศัพท์ในปี 1876 ถัดมาอีกเพียงปีเดียวคือ1877  โลกก็เริ่มรู้จักกับการบันทึกแผ่นเสียง อีก 20 กว่าปีต่อมาคือปี 1896  ก็เกิดวิทยุกระจายเสียขึ้น ปี 1935 เริ่มค้นพบเครื่องโทรสาร ปี 1939 เกิดโทรทัศน์ ปี 1945 ค้นพบระบบการคำนวณแบบคอมพิวเตอร์ อีกสองปีคือ  1947  โลกเริ่มรู้จักกับทรานซิสเตอร์ ปี 1954 เกิดโทรทัศน์สีขึ้น ปี 1961 – เลเซอร์ดิสก์ ปี 1965 เริ่มรู้จัก email ปี 1973 โทรศัพท์มือถือซึ่งถือเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของการสื่อสารของมนุษย์ ปี 1974 – ไมโครคอมพิวเตอร์ Altair 8800 ทำให้คอมพิวเตอร์ไม่ใช่สิ่งเข้าถึงยากสำหรับมวลชนอีกต่อไปเช่นเดียวกับระบบการพิมพ์ที่ทำให้หนังสือไม่ใช่สิ่งฟุ่มเฟือยสำหรับชนชั้นสูงเท่านั้น
และในปี 1989 โลกก็เริ่มรู้จักเทคโนโลยี World Wide Web อีกหนึ่งปีต่อมาคือปี 1990 – Online Search Engine ก็อุบัติขึ้น สองปีถัดมาคือ 1992  มี Web Browser ตัวแรกของโลก ปี 1994 – Palm Pilot ซึ่งถือเป็นบรรพบุรุษของแทบเลตในพ.ศนี้  ในปี 1996  โลกก็ได้ Google มา และปี 1999  ระบบการโอนถ่ายข้อมูลขนาดใหญ่แบบ P2P ก็อุบัติขึ้น  ปี 2002 – iPod ก็ทำให้วิทยุ Walkman กลายเป็นประวัติศาสตร์ไป  ปี 2004  เราเริ่มมี Podcasting ซึ่งทำให้เราไม่ต้องเฝ้าติดวิทยุอีกต่อไป สามารถรับฟังย้อนหลังได้ และแล้วสังคมยุคใหม่แบบ Social Network ก็เกิดขึ้นในปี  2003 เริ่มจาก Myspace ก่อน ตามมาอีก 1 ปี คือ 2004 – Facebook รุ่นน้องที่ทำให้เกิดการถล่มทลายของประวัติศาสตร์การสื่อสารแบบหนึ่งต่อหนึ่ง และหนึ่งต่อล้านเป็นไปได้ง่ายขึ้น
ถ้าดูจากความเร็วในการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ข้างต้น ก็พอจะทำให้เข้าใจได้ว่า ทำไมคนถึงลังเลต่อการลงทุนรวมถึงพฤติกรรมการอ่านด้วย เพราะรูปแบบการเรียนรู้ของมนุษย์เราก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน  เทคโนโลยีได้ทำให้หนังสือเองกลายเป็นเทคโนโลยีไปด้วย การเขียนเป็นเทคโนโลยี จากการใช้ปากกาก็มาเป็นคีย์บอร์ด และคีย์บอร์ดเองก็กำลังถูกท้าทายจนมีการทำนายว่า อาจจะหายไปจากประวัติศาสตร์เร็วๆ นี้  คนที่กลัวแลเทคโนโลยีก็เลยหยุดอ่านเสียเลย
ปัจจัยที่ 2: เทคโนโลยีกลายเป็นเหยื่อของการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เรียกได้ว่าบางเทคโนโลยียังไม่มีโอกาสโตเป็นสาวก็ถูกแทนที่ด้วยของใหม่ที่ดูไฉไลกว่าแล้ว ตัวอย่างเช่น ฟอร์แมทของมีเดียถูกแทนที่ด้วยรูปแบบใหม่ๆ เทป 8 แทรกถูกแทนที่ด้วยเทปคาสเซ็ท เทปคาสเซ็ทถูกแทนที่ด้วยซีดี ซีดีก็กำลังกลายเป็นประวัติศาสตร์ เป็นไฟล์ที่สามารถหามาใช้ได้จากอากาศไม่ต่างจากอากาศที่เราหายใจ อุปกรณ์ต่างๆ ก็มีการปรับเปลี่ยนพัฒนาไป ทุกวันนี้คนใช้โทรศัพท์มือถือไม่มีโอกาสรอให้เครื่องเสียก่อนแล้วค่อยซื้อใหม่ เพราะกว่าเครื่องจะเสีย เราอาจเสียโอกาสใช้บริการบางอย่างไปแล้ว ลองดูว่าเครื่องใช้ต่างๆ ทุกวันนี้เราเปลี่ยนก่อนที่แบตเตอรี่ก้อนแรกจะเสื่อมด้วยซ้ำ ต้นทุนการใช้โทรศัพท์เครื่องเก่าอาจแพงกว่าการซื้อเครื่องใหม่ เพราะเครื่องใหม่ สามารถใช้ทั้งโทรศัพท์ อ่านข่าว ดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายรูป เป็นเครื่องเล่นเกม ช่วยในการสื่อสารกับคนแดนไกลในราคาค่าบริการ 0 บาท ซึ่งหากไม่ใช้เครื่องรุ่นใหม่ เราอาจต้องเสียค่าโทรทางไกลที่แพงกว่า อย่างนี้เป็นต้น
ปัจจัยที่ 3: เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลที่ทรงประสิทธิภาพ เป็นปัจจัยที่เกี่ยวกับห้องสมุดโดยเฉพาะ การเก็บข่าวสารข้อมูลอยู่ที่การจัดเก็บได้มากกว่าในพื้นที่น้อยกว่า ซึ่งขนาดมีการหดตัวลงเรื่อยๆ แต่เรากำลังจะไปชนขอบเหวของการหดตัวด้านขนาดแล้ว และเมื่อนั้น เราก็จะหันมาแข่งในเรื่องของ ประสิทธิภาพในการจัดเก็บ ความเร็วในการจัดเก็บ การเข้าถึงข้อมูลที่เร็วกว่า  มีเสถียรภาพ มากกว่า ความคงทนยั่งยืนกว่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญสุดสำหรับห้องสมุด โดยเฉพาะการหาได้ง่ายและรวดเร็วที่อาจมีการบัญญัติศัพท์ขึ้นใหม่ว่า  findability.ในขณะที่การพัฒนายังไม่หยุดนิ่ง การกำหนดมาตรฐานก็ยังไม่เกิด
ปัจจัยที่ 4: เทคโนโลยีในการค้นหาจะมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
  • เสิร์ชปัจจุบันเป็น Text ที่แม้ว่าจะครอบคลุมทุกภาษาบนโลกแล้วก็ตาม แต่สื่อมีรูปแบบที่แตกต่างกันไม่ได้จำกัดแค่ Text เช่น ภาพ เสียง รูป แต่อย่างไรก็ตามเสิร์ชยุคใหม่ไม่ได้จำกัดแค่นั้น แต่รวมถึงการค้นหารูป รส กลิ่นเสียง texture, reflectivity, opacity, mass, density, tone, speed, and volume.
  • คนยุคใหม่มีเวลาน้อยลง เพราะต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากขึ้น และไม่สามารถเรียนรู้ทุกอย่างได้  มีความอดทนในการรอได้น้อยลง บรรณารักษ์จึงต้องปรับบทบาทในการเป็นผู้สนับสนุนการค้นหา และมีทักษะบางอย่างที่จะไปช่วยคนค้นหา
ปัจจัยที่ 5: การหดตัวของเวลา ทำให้วิถีชีวิตของคนไปห้องสมุดน้อยลง เพราะเสียเวลาเดินทางไป ในขณะที่ความต้องการของคนเพิ่มขึ้น และหลากหลายกว่าเมื่อก่อน มีความจำเป็นใหม่ๆ สำหรับชีวิตเกิดขึ้นหลายอย่างเมื่อเทียบกับอดีต  เมื่อเวลาบีบรัด ความต้องการต่างๆ ก็บีบรัดทำให้ต้องการเร็วขึ้นในเวลาที่สั้นลง ดังนั้น เวลาในการเข้าห้องสมุดจึงถูกเบียดเบียนไป และนี่คือสถิติของการใช้เวลาในปัจจุบันนี้ คนปัจจุบันนอนเฉลี่ยน้อยกว่าเมื่อก่อนวันละ 2 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับเมื่อ 80 ปีก่อน จากเฉลี่ย 8.9 เหลือ 6.9 ชั่วโมง  34% รับประทานอาหารระหว่างงาน หรือระหว่างเดินทาง 66% ของคนหนุ่มสาวท่องเน็ตไปด้วยหรือชมทีวีระหว่างรับประทานอาหาร ในการสำรวจล่าสุด 43% มีปัญหาในการตัดสินใจ เพราะว่ามีข้อมูลเยอะเกินไป  ห้องสมุดจึงต้องปรับเปลี่ยนตามความต้องการที่เปลี่ยนไป อย่างหนึ่งที่หายไปคือตู้ดัชนีหนังสือ และคีย์บอร์ดคือเหยื่อรายต่อไป
ปัจจัยที่ 6: สังคมกำลังพัฒนาไปสู่สังคมการพูดมากกว่าการอ่าน อันนี้สอดคล้องกับสังคมไทยที่มักพูดมากกว่าทำ แต่ของเขาพูดมากกว่าอ่าน แต่ก็ยังทำเหมือนเดิม Dr William Crossman, แห่งสถาบัน CompSpeak คาดการณ์ไว้ว่าในราวปี 2050 ความสามารถในการอ่านและเขียนของคนจะหายไปเมื่อคอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่นั้นแทนเราการอ่านหนังสือ จะกลายเป็นเหมือนการสนทนากับมนุษย์อีกคนหนึ่งในห้องอ่านหนังสือ
ปัจจัยที่ 7: ความกระหายในข่าวสารข้อมูลมีมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ถึงแม้ว่าโลกจะท่วมท้นไปด้วยข้อมูลข่าวสารก็ตาม คนก็ยังโหยหาข้อมูลมากยิ่งๆ ขึ้น เพื่อประกอบในการตัดสินใจด้านต่างๆ มีการเปรียบเปรยไว้ว่า ความสามารถในการทำธุรกิจที่ขึ้นกับภาษาจะมีความจำเป็นน้อยลง แต่ความเข้าใจในวัฒนธรรม สังคมและจารีตจะมีความจำเป็นมากขึ้น นั่นหมายความว่าต้องการองค์ความรู้ในด้านนี้มากขึ้น
ปัจจัยที่ 8: การเปลี่ยนแปลงของระเบียบโลกจะทำให้ห้องสมุดต้องปรับตัว จากอดีตที่มีการอ้างอิงสำหรับสังคมที่ต่างกันผ่านเฉพาะกรอบเวลา มาตราวัด ก็จะมีมาตรฐานของการอ้างอิงระบบ GPS และอินเตอร์เน็ตเข้ามาเกี่ยวข้อง  ในบางระบบอาจต้องอ้างอิงตลาดหลักทรัพย์ การขนส่งเข้ามาเกี่ยวข้อง ระเบียบศุลกากร โลกจะต้องอิงกับระบบบัญชีที่อ้างอิงกันได้ ระบบกระแสเงินตราที่หลายหลายขึ้น มาตรฐานจริยธรรมที่แตกต่างกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นการเปิดโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ซึ่งห้องสมุดจะเข้ามามีบทบาทในมาตรฐานใหม่เหล่านี้มาก ในฐานะของผู้ให้บริการ และระบบห้องสมุดก็จะกลายเป็นระบบใหม่ของโลกอีกระบบหนึ่งเหมือนกัน เปรียบเหมือนสมอเรือ
ปัจจัยที่ 9: การปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจจากการอ้างอิงสินค้าเป็นหลักไปเป็นการอ้างอิงประสบการณ์บริการก็คือประสบการณ์ของแต่ละคนที่แตกต่างกัน บริการเดียวกันอาจให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันสำหรับคน 10 คน ก็เท่ากับมีระบบเศรษฐกิจใหม่อีก 10 ระบบ ยิ่งประชากรโลกอายุเฉลี่ยมากขึ้น และมีการเดินทางมากขึ้น ความต้องการบริการที่เฉพาะของแต่ละคนก็หลากหลายมากขึ้น เป็นธรรมชาติของคนที่เมื่อรวยขึ้นก็มีความต้องการจะแสดงความรวยออกมา ถึงแม้ว่า ปัจจุบันนี้คนไปใช้บริการห้องสมุดไม่ค่อยได้ถามบรรณรักษ์ แต่อนาคตบรรณรักษ์จะต้องปรับบทบาทมาให้บริการด้านประสบการณ์กับผู้ใช้ การอ่านหนังสือจะกลายเป็นกิจกรรมเพื่อเพิ่มประสบการณ์

รถโมบายส่งเสริมการอ่าน ต.ย่านยาว

เมื่อวันที่ 31 กรกรฎาคม 2556 เวลา 08.00 น. - 12.30 น. ห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" อำเภอสวรรคโลกและคณะครู กศน.อำเภอสวรรคโลก ได้ร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ณ โรงเรียนวัดท่าช้าง ตำบลย่านยาว  อำเภอสวรรคโลก มีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น รถโมบาย  ทายคำจากภาพปริศนา เรขาคณิตปริศนา จัดกลุ่มอาชีพแซนวิซจิ๋ว  มีนักเรียนและผู้เข้าร่วมจำนวนทั้งสิ้น  80 คน


แนะนำห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย

ประวัติความเป็นมา


ห้องสมุดประชาชน"เฉลิมราชกุมารี"อำเภอสวรรคโลก

             เมื่อ พ.ศ. 2533 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงมีพระชนมายุครบ  3  รอบ ใน พ.ศ.2534 สมควรสร้างห้องสมุดประชาชนขึ้นถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติทั่วประเทศไม่น้อยกว่า  36  แห่ง  จังหวัดสุโขทัยเป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้กำหนดให้มีการสร้างขึ้น  1  แห่ง 
      สถานที่ก่อสร้างห้องสมุดฯ ขอใช้ที่ดินราชพัสดุบริเวณสำนักงานป่าไม้ อำเภอสวรรคโลก แปลงหมายเลขทะเบียนที่ สท 150 จำนวนเนื้อที่ 2 ไร่ 70ตารางวาโดยทำพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.. 2534  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานเปิดห้องสมุดประชาชน"เฉลิมราชกุมารี"อำเภอสวรรคโลก ในวันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ..2537  และทรงปลูกต้นกฤษณาไว้หน้าห้องสมุด นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้
  
ปัจจุบัน
ตั้งอยู่ เลขที่ 32 / 2 .หน้าเมือง ต.เมืองสวรรคโลก อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย64110

โทรศัพท์ 0-5564-1184
โทรสาร 0-5564-1044

การแบ่งสัดส่วนในห้องสมุด  
            ภายในห้องสมุดจัดแบ่งเป็นมุมและสัดส่วน ดังนี้

ชั้นล่าง

1.พื้นที่อ่านหนังสือ
2.มุมหนังสือทั่วไป
3.มุมเด็กและครอบครัว
4.ห้องบรรณารักษ์
5.ห้องอ้างอิง
6.พื้นที่อเนกประสงค์(สำหรับทำกิจกรรม)
7.ห้องน้ำ
8.ห้องสรง

ชั้นบน

1.ห้องสวรรคโลก
2.ห้องเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
3.ห้องโสตทัศน์
4.ห้องเรียนทางไกล
5.พื้นที่อเนกประสงค์
     
ส่วนที่ 1  ความเป็นมาของการจัดตั้งห้องสมุด 1.1  สถานที่หรือทำเลที่ตั้ง
 
         ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมรี”อำเภอสวรรคโลก  ตั้งอยู่เลขที่  32/2 ถนนหน้าเมือง
ต.เมืองสวรรคโลก  อ.สวรรคโลก  จ.สุโขทัย  เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กตั้งเป็นเอกเทศ  
  เบอร์โทรโทรศัพท์    0 – 5564 – 1184
  Webside   -   http : llsukho.nfe.go.th/libsw /index.php.
  E – mail   -   libsw 2537@ hotmail.com

1.2 แนวคิดในการจัดตั้ง  จุดประสงค์และการมีส่วนร่วม

            แนวคิดในการจัดตั้ง  ข้าราชการ  พ่อค้า  ประชาชน  นักเรียน  นักศึกษา  มีความประสงค์สร้างห้องสมุดฯ เพื่อเป็นแหล่งค้นคว้า  ศึกษา  เรียนรู้  สำหรับประชาชน  
นักเรียน นักศึกษา และเยาวชน พร้อมน้อมเกล้าถวาย  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี ในวโรกาสพระชนมายุครบ  3  รอบ  36พรรษา  โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ทรงเล็งเห็นความสำคัญของห้องสมุดประชาชน  ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาประเทศชาติให้ก้าวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ  นอกจากนี้ห้องสมุดประชาชนยังเป็นแหล่งความรู้ในท้องถิ่น  ที่สามารถเชื่อมโยงระหว่างวิทยาการภายนอก กับวิทยาการภายในท้องถิ่น  อันเป็นแหล่งสำคัญที่จะอนุรักษ์และเผยแพร่วัฒนธรรมพื้นบ้านได้อย่างดี  ดังปรากฏในพระราชปณิธาน  ในพระราชนิพนธ์ของพระองค์ท่าน  “ ห้องสมุดในทัศนะของข้าพเจ้า”
           เมื่อ พ.ศ. 2533 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงมีพระชนมายุครบ  3  รอบ  36  พรรษา ใน พ.ศ.2534 สมควรสร้างห้องสมุดประชาชนขึ้นถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติทั่วประเทศไม่น้อยกว่า  36  แห่ง  จังหวัดสุโขทัยเป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้กำหนดให้มีการสร้างขึ้น  1  แห่ง  โดยมีงบประมาณก่อสร้าง1,000,000  บาท (หนึ่งล้านบาท)
          ดร.ธวัช  มกรพงศ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้นำเรื่องเข้าที่ประชุม เมื่อเดือนกรกฎาคม  2534  โดยให้อำเภอต่างๆ เสนอความเห็นว่าจะสร้าง นายสำเริง  เชื้อเชาลิต   
นายอำเภอสวรรคโลก   ให้นายเมือง  ไตรทอง  เทศมนตรีเมืองสวรรคโลก  ชี้แจงความเหมาะสม 
         จังหวัดสุโขทัย ได้ตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างใหม่ ให้ไปสร้างในที่ดินของกรมป่าไม้ หน้าชุมสายโทรศัพท์สวรรคโลก  ต่อมาได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์ 
ก่อสร้างเมื่อวันที่  26  กันยายน  2534  เวลา  10.00 น.  โดยมีดร.ธวัช  มกรพงศ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานในพิธี ต่อมาได้มีผู้บริจาคทรัพย์ร่วมก่อสร้าง  ดังนี้
    1.องค์การบริหารส่วนจังหวัด   จำนวน  1,700,000 บาท
    2.ร.ต.ประพาส  ลิมปะพันธุ์      จำนวน     100,000 บาท
    3.นายสมศักดิ์  เทพสุทิน          จำนวน        100,000 บาท
   4.นายประศาสตร์  ทองปากน้ำ จำนวน     100,000 บาท
   5.นายปัญญา  ปิยจรรยา           จำนวน       31,750 บาท
   6.นายประพฤติ  ลิมปะพันธุ์     จำนวน       22,000 บาท
   7.คณะสงฆ์จังหวัดสุโขทัย     จำนวน       19,450 บาท
   8.นายกกาชาดจังหวัดสุโขทัย  จำนวน       15,000 บาท
   9.นายอำนาจ  สายทอง            ทำป้ายหินอ่อนห้องสมุดประชาชน”เฉลิมราชกุมารี”
 10.เทศบาลเมืองสวรรคโลก สร้างถนนคอนกรีตเข้าห้องสมุด


พิธีเปิดอาคารห้องสมุด ประชาชน“ เฉลิมราชกุมารี ”  อำเภอสวรรคโลก
สมเด็จพระเทพตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี  
ในวันเสด็จเป็น     องค์ประธานในพิธีเปิดห้องสมุดฯ